Kaspersky Standard | Plus | Premium
[Topic 201574]

วิธีการกำหนดค่าการแจ้งเตือนแอปพลิเคชัน

ขยายทั้งหมด | ยุบทั้งหมด

การแจ้งเตือนที่ปรากฏในพื้นที่แจ้งให้ทราบของแถบงานจะแจ้งคุณให้ทราบถึงเหตุการณ์ของแอปพลิเคชันที่ต้องใส่ใจ คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับวิกฤตของเหตุการณ์:

  • การแจ้งเตือนวิกฤต คุณจะได้รับแจ้งเหตุการณ์ที่มีความวิกฤตที่สำคัญอย่างยิ่งยวดต่อระบบความปลอดภัยสำหรับคอมพิวเตอร์ เช่น การตรวจพบออบเจ็กต์ที่เป็นอันตรายหรือกิจกรรมที่เป็นอันตรายในระบบปฏิบัติการ หน้าต่างที่ใช้สำหรับการแจ้งเตือนวิกฤตและข้อความป็อปอัปจะเป็นสีแดง
  • การแจ้งเตือนสำคัญ คุณจะได้รับแจ้งเหตุการณ์ที่มีความสำคัญที่อาจจะเกิดขึ้นต่อระบบความปลอดภัยสำหรับคอมพิวเตอร์ เช่น การตรวจพบออบเจ็กต์ที่อาจเป็นอันตรายหรือกิจกรรมที่น่าสงสัยในระบบปฏิบัติการ หน้าต่างที่ใช้สำหรับการแจ้งเตือนสำคัญและข้อความป็อปอัปจะเป็นสีเหลือง
  • การแจ้งเตือนข้อมูล คุณจะได้รับแจ้งเหตุการณ์ที่ไม่วิกฤตสำคัญต่อระบบความปลอดภัยสำหรับคอมพิวเตอร์ หน้าต่างที่ใช้สำหรับการแจ้งเตือนข้อมูลและข้อความป็อปอัปจะเป็นสีเขียว

ถ้าการแจ้งเตือนปรากฏบนหน้าจอ คุณควรเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งที่ได้แนะนำในการแจ้งเตือน ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือรายการที่แนะนำเป็นค่าเริ่มต้นโดยผู้เชี่ยวชาญของ Kaspersky

การแจ้งเตือนสามารถปิดไปโดยอัตโนมัติเมื่อคอมพิวเตอร์รีสตาร์ท เมื่อแอปพลิเคชัน Kaspersky ปิด หรือโหมดสแตนด์บายถูกเชื่อมต่อใน Windows 8 การแจ้งเตือน การป้องกันการบุกรุก จะปิดไปโดยอัตโนมัติหลังจาก 500 วินาที การแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเริ่มต้นแอปพลิเคชันจะปิดหลังจาก 1 ชั่วโมง เมื่อการแจ้งเตือนปิดไปโดยอัตโนมัติ แอปพลิเคชัน Kaspersky จะทำการดำเนินการตามการแนะนำที่เป็นค่าเริ่มต้น

คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อเรียนรู้วิธีการกำหนดค่าการแจ้งเตือนแอปพลิเคชัน

วิธีกำหนดค่าการส่งการแจ้งเตือน

ในการสร้างกฎการแจ้งเตือน:

  1. เปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันหลัก
  2. คลิก ปุ่มการตั้งค่า ที่ด้านล่างของหน้าต่างหลัก

    ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่าง การตั้งค่า

  3. เลือกส่วนการตั้งค่าอินเทอร์เฟซ
  4. ในบล็อก การแจ้งเตือน คลิกลิงก์ กำหนดการแจ้งเตือน เพื่อไปยังหน้าการตั้งค่าการแจ้งเตือน
  5. เลือกส่วนประกอบในรายชื่อทางฝั่งซ้าย

    ในส่วนทางขวาของหน้าต่างที่แสดงรายชื่อของกิจกรรมที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติการณ์ของส่วนประกอบนี้

  6. เลือกกิจกรรมจากรายการและเลือกช่องเครื่องหมายต่อไปนี้:
    • บันทึกในรายงาน เฉพาะที่. เมื่อกิจกรรมเกิดขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมนี้จะถูกเขียนไปในรายงานซึ่งจะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์
    • แจ้งเตือนบนหน้าจอ. เมื่อกิจกรรมเกิดขึ้น การแจ้งเตือนป็อปอัปจะแสดงขึ้นเหนือไอคอนแอปพลิเคชันในพื้นที่แถบการแจ้งเตือน

    คุณสามารถใช้รายการแบบเลื่อนลงในมุมซ้ายล่างเพื่อบ่งชี้ว่าการแจ้งเตือนอันไหนที่คุณต้องการบันทึกลงไปในรายงาน

    • ค่าเริ่มต้น. เมื่อตัวเลือกนี้ถูกเลือก รายงานที่ถูกเขียนจะบันทึกกิจกรรมที่ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญของ Kaspersky
    • ด้วยตัวเอง. ตัวเลือกนี้ถูกเลือกโดยอัตโนมัติหากคุณกำหนดค่าความสามารถในการบันทึกกิจกรรมไปยังรายงานด้วยตนเอง
    • สำคัญ. เมื่อเลือกตัวเลือกนี้ รายงานที่สร้างแล้วจะบันทึก เหตุการณ์สำคัญ (รวมถึง กิจกรรมแอปพลิเคชันที่เกิดข้อผิดพลาด สำหรับส่วนประกอบ การตรวจสอบระบบ และ การป้องกันการบุกรุก)
    • สำคัญ. เมื่อเลือกตัวเลือกนี้ รายงานที่สร้างแล้วจะบันทึก เหตุการณ์สำคัญ (รวมถึง กิจกรรมแอปพลิเคชันที่เกิดข้อผิดพลาด สำหรับส่วนประกอบ การตรวจสอบระบบ และ การป้องกันการบุกรุก) และ คำเตือน
    • ให้ข้อมูล. เมื่อตัวเลือกนี้ถูกเลือก รายงานที่สร้างแล้วจะบันทึกกิจกรรมทั้งหมด

การแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม แอปพลิเคชันจะทำงานและประมวลผลข้อมูลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และใช้โครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม จะแสดงบนหน้าจอในบริเวณแถบงานเสมอ การล้างช่องทำเครื่องหมายจะไม่เปลี่ยนการตั้งค่า

วิธีกำหนดค่าการส่งการแจ้งเตือนมีข้อเสนอใหม่และพิเศษจาก Kaspersky

หากคุณต้องการรับข่าวสารเกี่ยวกับข่าวการป้องกันทางไซเบอร์ล่าสุดและรับข้อเสนอพิเศษจาก Kaspersky

  1. เปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันหลัก
  2. คลิก ปุ่มการตั้งค่า ที่ด้านล่างของหน้าต่างหลัก

    ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่าง การตั้งค่า

  3. ไปที่ส่วน การตั้งค่าอินเทอร์เฟซ
  4. ในบล็อก การแจ้งเตือนข่าว เลือกช่องเครื่องหมาย รับข้อความแจ้งข้อมูลและโฆษณาจาก Kaspersky หากคุณต้องการรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข่าวความปลอดภัยคอมพิวเตอร์
  5. ในส่วน เอกสารส่งเสริมการขาย ให้ดำเนินการใดๆ ดังต่อไปนี้:
    • เลือกช่องเครื่องหมาย รับข้อความแจ้งข้อมูลและโฆษณาจาก Kaspersky หากคุณต้องการรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข่าวความปลอดภัยคอมพิวเตอร์
    • เลือกช่องเครื่องหมาย แสดงข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษบนเว็บไซต์ หากคุณต้องการรับข้อเสนอที่ดีที่สุดเมื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ Kaspersky
    • เลือกช่องเครื่องหมาย รับโฆษณาและข้อความแจกแจงข้อมูลหลังจากการบอกรับเป็นสมาชิกปัจจุบันหมดอายุ หากคุณต้องการรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข่าวความปลอดภัยจาก Kaspersky หลังจากที่การบอกรับเป็นสมาชิกของคุณหมดอายุ

วิธีเปิดใช้เสียงการแจ้งเตือน

  1. เปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันหลัก
  2. คลิก ปุ่มการตั้งค่า ที่ด้านล่างของหน้าต่างหลัก

    ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่าง การตั้งค่า

  3. เลือกส่วน การตั้งค่าอินเทอร์เฟซ
  4. ในบล็อกการแจ้งเตือน เลือกช่องเครื่องหมาย เปิดใช้งานเสียงการแจ้งเตือน

    ในการเปลี่ยนสัญญาณเสียงค่าเริ่มต้นเป็น "ระดับเสียงสูง" ให้พิมพ์ IDKFA ในหน้าต่าง เกี่ยวกับ

เสียงการแจ้งเตือนจะไม่เล่นใน Microsoft Windows 10

วิธีกำหนดค่าการแจ้งเตือนเมื่อบุตรหลานกำลังใช้แอปพลิเคชัน

หากมีการติดตั้ง Kaspersky Safe Kids บนคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถเปิดใช้งานหรือปิดใช้การแจ้งเตือน Kaspersky เมื่อบุตรหลานใช้คอมพิวเตอร์ได้

ในการกำหนดค่าการแจ้งเตือนเมื่อบุตรหลานกำลังใช้แอปพลิเคชัน:

  1. เปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันหลัก
  2. คลิก ปุ่มการตั้งค่า ที่ด้านล่างของหน้าต่างหลัก

    ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่าง การตั้งค่า

  3. ไปที่ส่วน การตั้งค่าอินเทอร์เฟซ
  4. เลือกตัวเลือก:
    • ล้างช่องทำเครื่องหมาย แสดงการแจ้งเตือนในบัญชีของเด็ก เพื่อปิดการแจ้งเตือน Kaspersky เมื่อบุตรหลานกำลังใช้แอปพลิเคชัน
    • เลือกช่องทำเครื่องหมาย แสดงการแจ้งเตือนในบัญชีของเด็ก เพื่อเปิดการแจ้งเตือน Kaspersky เมื่อบุตรหลานกำลังใช้แอปพลิเคชัน

รายละเอียดเกี่ยวกับ การกำหนดค่าแอปพลิเคชัน Kaspersky เมื่อบุตรหลานกำลังใช้คอมพิวเตอร์

ด้านบนสุดของหน้า

[Topic 201575]

วิธีเปลี่ยนชุดรูปแบบของแอปพลิเคชัน

ความสามารถในการเปลี่ยนชุดรูปแบบของแอปพลิเคชันไม่สามารถใช้ได้ในบางภูมิภาค

ในการเปลี่ยนชุดรูปแบบของแอปพลิเคชัน

  1. เปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันหลัก
  2. คลิก ปุ่มการตั้งค่า ที่ด้านล่างของหน้าต่างหลัก

    ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่าง การตั้งค่า

  3. เลือกส่วนการตั้งค่าอินเทอร์เฟซ
  4. ในบล็อก ชุดรูปแบบ ให้เลือกหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้:
    • เหมือนกับระบบปฏิบัติการ. ชุดรูปแบบระบบปฏิบัติการปัจจุบันถูกใช้งาน
    • สว่าง. ใช้ชุดรูปแบบแอปพลิเคชันแบบสว่าง
    • มืด. ใช้ชุดรูปแบบแอปพลิเคชันแบบมืด
    • ใช้ชุดรูปแบบแบบกำหนดเอง หากคุณต้องการใช้ชุดรูปแบบที่กำหนดเอง คลิก เลือก และใส่พาธไปยังแฟ้ม ZIP หรือโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ใช้ชุดรูปแบบที่กำหนดเอง

ชุดรูปแบบจะถูกนำไปใช้หลังจากเริ่มแอปพลิเคชันใหม่

ด้านบนสุดของหน้า

[Topic 201577]

วิธีกำหนดค่าไอคอนแอปพลิเคชัน

ขยายทั้งหมด | ยุบทั้งหมด

ในส่วนนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการกำหนดค่าไอคอนแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อปและในพื้นที่การแจ้งเตือน

วิธีเปลี่ยนไอคอนแอปพลิเคชัน

ในการเปลี่ยนไอคอนแอปพลิเคชัน

  1. เปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันหลัก
  2. คลิก ปุ่มการตั้งค่า ที่ด้านล่างของหน้าต่างหลัก

    ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่าง การตั้งค่า

  3. เลือกส่วนการตั้งค่าอินเทอร์เฟซ
  4. ในบล็อก ไอคอนแอปพลิเคชัน ให้เลือกหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้:
    • ไอคอนมาตรฐาน. เมื่อตัวเลือกนี้ถูกเลือก เดสก์ท็อปและพื้นที่การแจ้งเตือนจะแสดงไอคอนแอปพลิเคชันพื้นฐาน
    • มิโดริ คุมะ. เมื่อตัวเลือกนี้ถูกเลือก เดสก์ท็อปและพื้นที่การแจ้งเตือนจะแสดงไอคอนที่มีรูปของมาสค็อตหมีที่รู้จักกันในชื่อ มิโดริ คุมะ

หากต้องการเปลี่ยนกลับเป็นไอคอนแอปพลิเคชันตัวอักษร K แบบดั้งเดิม ให้พิมพ์ IDDQD ในหน้าต่าง เกี่ยวกับ เพื่อใช้การเปลี่ยนแปลง คุณต้องรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

ใน Windows 10 คุณต้องรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยตัวเองเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล หากคุณปิด/เปิดคอมพิวเตอร์ การเปลี่ยนแปลงจะไม่มีผล

วิธีเปลี่ยนไอคอนในพื้นที่การแจ้งเตือนขึ้นอยู่กับสถานะของการป้องกัน

เพื่อเปลี่ยนไอคอนแอปพลิเคชัน Kaspersky ในบริเวณการแจ้งเตือน ขึ้นอยู่กับสถานะของแอปพลิเคชัน:

  1. เปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันหลัก
  2. คลิก ปุ่มการตั้งค่า ที่ด้านล่างของหน้าต่างหลัก

    ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่าง การตั้งค่า

  3. เลือกส่วน อินเทอร์เฟซ
  4. ในบล็อก แสดงสถานะของแอปพลิเคชันในพื้นที่การแจ้งเตือน เลือกสถานะและเลือกช่องทำเครื่องหมาย

เมื่อแอปพลิเคชันเปลี่ยนสถานะไปตามสถานะที่เลือกไว้ ไอคอนแอปพลิเคชันในบริเวณการแจ้งเตือนจะเปลี่ยน

ด้านบนสุดของหน้า

[Topic 201576]

วิธีการป้องกันการเข้าถึงฟังก์ชันการจัดการแอปพลิเคชันด้วยรหัสผ่าน

ขยายทั้งหมด | ยุบทั้งหมด

คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องอาจมีผู้ใช้ร่วมกันหลายคน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีระดับประสบการณ์และการใช้คอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกัน การเข้าใช้งานแอปพลิเคชันและการตั้งค่าโดยไม่มีข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ที่แตกต่างกันอาจทำให้ระดับความปลอดภัยสำหรับคอมพิวเตอร์ลดลง

เพื่อจำกัดการเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน คุณสามารถตั้งรหัสผ่านผู้ดูแลระบบสำหรับปัญชีผู้ใช้ KLAdmin ผู้ใช้รายนี้มีสิทธิ์ไม่จำกัดในการจัดการและแก้ไขการตั้งค่าของแอปพลิเคชัน รวมถึงกำหนดการอนุณาตเข้าถึงแอปพลิเคชันให้กับผู้ใช้รายอื่น หลังจากที่คุณตั้งรหัสผ่านสำหรับ KLAdmin คุณจะสามารถกำหนดการอนุญาตเข้าถึงแอปพลิเคชันให้กับผู้ใช้หรือกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลาย

การสร้างรหัสผ่านผู้ดูแลระบบ KLAdmin:

  1. เปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันหลัก
  2. คลิก ปุ่มการตั้งค่า ที่ด้านล่างของหน้าต่างหลัก

    ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่าง การตั้งค่า

  3. เลือกส่วนการตั้งค่าอินเทอร์เฟซ
  4. เปลี่ยน การป้องกันด้วยรหัสผ่าน เป็น เปิด
  5. ในหน้าต่างที่เปิดนั้นให้กรอกช่อง ชื่อผู้ใช้ (แนะนำขื่อ KLAdmin), ป้อนรหัสผ่าน และ ยืนยันรหัสผ่าน

    เคล็ดลับการสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง

    • รหัสผ่านต้องมีอักขระอย่างน้อยแปดตัวและไม่เกิน 128 ตัว
    • รหัสผ่านต้องมีตัวเลขอย่างน้อยหนึ่งเลข
    • รหัสผ่านต้องมีทั้งตัวอักษรพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่
    • รหัสผ่านต้องมีอักขระพิเศษอย่างน้อยหนึ่งตัว (ตัวอย่างเช่น ! @ # $ % ^ & *)
  6. คลิกปุ่มบันทึก

ไม่สามารถกู้คืนรหัสผ่านที่ลืมได้ หากลืมรหัสผ่าน ให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อช่วยกู้การเข้าใช้งานที่การตั้งค่าแอปพลิเคชัน

ผู้ใช้ KLAdmin สามารถกำหนดการอนุญาตให้กับผู้ใช้และกลุ่มผู้ใช้ต่อไปนี้

  • กลุ่มผู้ใช้ ทุกคน กลุ่มนี้รวมถึงผู้ใช้ทั้งหมดของระบบปฏิบัติการ หากคุณอนุญาตให้กลุ่มนี้ดำเนินการทำงานเฉพาะ ผู้ใช้กลุ่มนี้จะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการทำงานนี้เสมอ แม้ว่าผู้ใช้เฉพาะหรือกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้ใช้ ทุกคน ไม่ได้รับการอนุญาตในการดำเนินการทำงานก็ตาม ตามค่าเริ่มต้น สมาชิกของกลุ่ม ทุกคน จะไม่ได้รับอนุญาตในการดำเนินการทำงานใดๆ
  • <ผู้ใช้ระบบ> ตามค่าเริ่มต้น ผู้ใช้ที่ถูกเลือกจะไม่ได้รับอนุญาตในการดำเนินการทำงานใดๆ นั่นหมายความว่าเมื่อคุณพยายามดำเนินการทำงานที่ไม่ได้รับอนุญาต คุณจะต้องใส่รหัสผ่านบัญชี KLAdmin ของคุณ

วิธีเพิ่มผู้ใช้หรือกลุ่มผู้ใช้

  1. ในส่วน การตั้งค่าอินเทอร์เฟซ ตรงที่บล็อก แสดงสถานะของแอปพลิเคชันในพื้นที่การแจ้งเตือน คลิกปุ่ม เพิ่ม

    ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่าง เพิ่มการอนุญาตสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่ม

  2. คลิกที่ลิงก์ เลือกผู้ใช้หรือกลุ่ม เพื่อไปยังหน้าต่างสำหรับเลือกผู้ใช้หรือกลุ่มผู้ใช้ของระบบปฏิบัติการ
  3. ในช่องชื่อออบเจ็กต์ ให้ระบุชื่อของผู้ใช้หรือกลุ่มผู้ใช้ (เช่น Administrator)
  4. คลิกปุ่มตกลง
  5. ในหน้าต่าง เพิ่มการอนุญาตสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่ม ในบล็อกคำอนุญาต ให้เลือกช่องทำเครื่องหมายถัดจากการดำเนินการที่คุณต้องการให้อนุญาตสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่ม

วิธีแก้ไขสิทธิสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่มผู้ใช้

ในส่วน การตั้งค่าอินเทอร์เฟซ ในบล็อก แสดงสถานะของแอปพลิเคชันในพื้นที่การแจ้งเตือน ให้เลือกผู้ใช้หรือกลุ่มในรายการคลิกปุ่ม แล้วคลิกปุ่ม แก้ไข

วิธีอนุญาตการดำเนินการสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่มผู้ใช้แต่ละคน

  1. ไปที่หน้าต่าง เพิ่มการอนุญาตสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่ม สำหรับกลุ่ม ทุกคน และยกเลิกตัวเลือกที่อนุญาตการดำเนินการนี้หากเปิดใช้งานอยู่
  2. ไปที่หน้าต่าง เพิ่มการอนุญาตสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่ม สำหรับผู้ใช้ที่ถูกเลือก และเลือกที่ช่องทำเครื่องหมายเพื่ออนุญาตการดำเนินการนี้

วิธีขัดขว้างการดำเนินการสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่มผู้ใช้แต่ละคน

  1. ไปที่หน้าต่าง เพิ่มการอนุญาตสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่ม สำหรับกลุ่ม ทุกคน และยกเลิกตัวเลือกที่อนุญาตการดำเนินการนี้หากเปิดใช้งานอยู่
  2. ไปที่หน้าต่าง เพิ่มการอนุญาตสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่ม สำหรับผู้ใช้ที่ถูกเลือก และยกเลิกตัวเลือกที่อนุญาตการดำเนินการนี้

เมื่อคุณพยายามดำเนินการทำงานใดๆ จากรายการในหน้าต่าง เพิ่มการอนุญาตสำหรับผู้ใช้หรือกลุ่ม แอปพลิเคชันจะขอให้คุณป้อนรหัสผ่าน ในหน้าต่างรหัสผ่าน กรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านสำหรับบัญชีผู้ใช้ปัจจุบัน การดำเนินการจะทำงาน หากบัญชีที่ระบุได้รับอนุญาตให้ดำเนินการทำงานนี้ ในหน้าต่างรหัสผ่าน คุณสามารถระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้จะไม่ต้องใส่รหัสผ่านอีกครั้ง

ในหน้าต่างรหัสผ่าน คุณสามารถเปลี่ยนภาษาที่ป้อนได้โดยการกด ALT+SHIFT เท่านั้น ทางลัดอื่นๆ จะไม่เปลี่ยนภาษาที่ป้อน แม้จะมีการกำหนดค่าทางลัดในระบบปฏิบัติการก็ตาม

ด้านบนสุดของหน้า

[Topic 70756]